ไก่ใส่งา ตอนที่6

Background color
Font
Font size
Line height


แบงค์เขียวกับเหรียญสองอันถูกยื่นมาให้ข้ามแผง แฮร์รี่เงยหน้าขึ้นสบตากับเจ้าของเงิน เอื้อมมือออกไปรับ ปลายนิ้วแตะกันแบบโคตรพ่อโคตรแม่จงใจ

นี่มันจังหวะหนังรักชัด ๆ ! พระนางมองตา จับมือกัน ทุกอย่างเกือบจะโรแมนติกอยู่แล้วถ้าซาวด์แทรคไม่ใช่เพลงชาติไทยตอนหกโมงเย็น

แถมเจ้าเด็กบ้าไก่ยังจ้องกันอย่างกับจะทิ่มให้พรุน ไม่แคร์สายตาละมุนละไมของเขาเลยสักนิด

นี่มันไม่ใช่รอมคอมแล้ว นี่มันหนังผีทวงแค้น

"ก็บอกว่าไม่ต้องจ่าย"

"ถ้าจะเก็บตังค์เข้ากระเป๋าเร็วขนาดนั้นก็ไม่ต้องพูดหรอก"

"..."

"แล้วแม่ก็ฝากอันนี้มาให้ด้วย" ถุงพลาสติกใสบรรจุห่อใบตองถูกส่งให้ "ข้าวเหนียวสังขยา..ไม่ต้องมายิ้ม เล่าให้แม่ฟังแล้วแม่ฝากมาขอบคุณ ไม่ได้อยากให้เองเข้าใจมั้ย"

คุณพ่อค้ามองเด็กนักเรียนตรงหน้าแยกเขี้ยว กลั้นยิ้มเอ็นดูจนแก้มแตก แฮร์รี่รับถุงขนมมาไว้ในมือ พูดล้อ ๆ

"ฝากขอบคุณแม่ยายด้วยนะจ๊ะ น้องฟินน์"

"อย่าลามปาม"

"พี่ผิดไปแล้วจ๊ะ" ชายหนุ่มพูดเสียงอ่อย แทบจะก้มลงกราบเบญจางคประดิษฐ์ "ฝากบอกคุณแม่ว่าพี่ขอบคุณมาก ๆ ก็พอ"

"เดี๋ยวบอกให้" ฟินน์ตอบก่อนจะหันหลังเดินฉับ ๆ ทิ้งคนขายไก่ทอดให้ยืนอยู่ด้านหลัง มือที่ซุกในกระเป๋าผ้ากันเปื้อนยังไม่ปล่อยออกจากแบงค์ยี่สิบ แฮร์รี่ยิ้มเหมือนคนบ้าเป็นรอบที่ล้านของวัน ซาวด์แทรคเพลงรักกลับมากระหึ่มอีกรอบ

"ไอ้หนุ่มเมืองเพชรรรรรรร รักเธอเหม็ดใจจจจจจจ"

...

เกือบสามทุ่มตลาดก็เริ่มวาย เหล่าพ่อค้าแม่ค้าเริ่มหุบร่ม แผงต่าง ๆ ทยอยพับเก็บ และร้านส่วนมากก็เริ่มปิด เจ้าของร้านไก่ทอดหาดใหญ่เทน้ำมันเหลือ ๆ ลงในท่อน้ำ เก็บถังแก๊สและข้าวของใส่ในรถ โบกมือหยอย ๆ ให้คุณน้าร้านข้างเคียง ก่อนจะเริ่มออกแรงเข็นรถกลับบ้าน

วันนี้ขายของได้ไม่ค่อยเยอะเท่าไร กำไรที่เกือบจะพอมีก็เลยกลายเป็นหดหายไปซะอย่างนั้น แถมวันนี้คุณคริสยังมาขอขึ้นค่าเช่าแผงอีกต่างหาก นอกจากไม่ได้กำไรแล้วยังจะเข้าเนื้อตัวเองเต็ม ๆ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปคงต้องย้ายไปขายที่ตลาดที่ค่าเช่าถูกกว่า หรือไม่ก็เลิกขาย

แต่เลิกขายแล้วจะเอาอะไรกิน ให้กลับไปเป็นพนักงานออฟฟิศอย่างเดิมก็คงไม่ไหว

ลูกจ้างก็ไม่เอา เป็นนายตัวเองก็ไม่รอด

เจริญจริงแฮร์รี่

"พี่แฮซ! รอด้วย"

ได้ยินเสียงเรียกขณะกำลังก้มหน้าก้มตาคิดวิธีเอาชีวิตรอดในสังคมทุนนิยม แฮร์รี่เงยหน้าขึ้นมอง ชายหนุ่มผมทองกำลังเข็นรถข้าวมันไก่คันโตอยู่ข้าง ๆ โดยมีเจ้าของเสียงนั่งถ่วงอยู่ด้านบน ทอมนั่งห้อยขาพิงตู้ไก่ที่ว่างเปล่าสบายใจเฉิบ บนตักมีถุงวาฟเฟิล

"สบายเป็นเจ้าหญิงเลยนะ" เขาแซว อดไม่ได้ที่จะสงสารคนเข็น "เข็นไหวไหมครับ ผมนี่แค่เห็นทอมขึ้นไปนั่งก็เสียวรถจะยุบ"

"พี่แฮซ..." ทอมหรี่ตา พูดเสียงต่ำ "พี่แจ็คเข็นไหวอยู่แล้วแหละ เนอะ"

ว่าไม่พอ หันไปพยักเพยิดกับคนเข็นที่ตอนนี้เหงื่อแตกซิกแต่ยังยิ้มสู้ แฮร์รี่มองแจ็คอย่างเวทนาสุดซึ้ง หลังเสื้อนักศึกษาของชายหนุ่มชุ่มไปด้วยเหงื่อ เช่นเดียวกับหน้าและผม

...ทาสเมียที่แท้

ถ้าเป็นน้องฟินน์ เขาจะยอมเหมือนที่เจ้าหัวทองนี่ยอมทอมรึเปล่านะ

เดินจนพ้นตลาด รถเข็นสองคันก็แยกย้าย แฮร์รี่เลี้ยวไปทางเซเว่นส่วนน้องทอมกับผัวทาสเลี้ยวไปซอยโรงหนังเก่า แอบหันไปเห็นแวบ ๆ ก่อนแยกกันว่าคนบนรถกำลังป้อนวาฟเฟิลให้สารถีส่วนตัวกิน

คนขายไก่ทอดยิ้มออกมาอีกครั้ง ยังรู้สึกได้ถึงน้ำหนักของเหรียญสิบกับเหรียญห้าที่ฟินน์ให้มาในกระเป๋าผ้ากันเปื้อน และสัมผัสของถุงข้าวเหนียวสังขยาที่คล้องอยู่ที่แขนก็ทำให้อุ่นแปลก ๆ ในใจแบบบอกไม่ถูก

อืม

รู้เลย

ถ้าเป็นน้องฟินน์ ให้เข็นไปถึงตะนาวศรีก็ยอม

...

"ทำไมเราต้องมาเจออะไรแบบนี้วะมึง" แบร์บ่นขณะนั่งฉีกหนังสือพิมพ์ ตอนนี้นักเรียนทั้งสามสุมหัวกันอยู่ที่ลานหลังบ้านทอม พยายามทำเปเปอร์มาเช่วิชาภาษาไทย

"กูไม่เกทว่าทำไมสมศรีต้องให้ปั้นหัวโจโฉ" เด็กตี๋ยังคงโอดครวญ "แกจะเอาไปตั้งประดับบ้านงี้เหรอ หรือยังไง"

"นี่ก็ไม่อาจหยั่งรู้ได้จ้า" เจ้าของบ้านพูดบ้าง ทอมเดินเข้ามาพร้อมกะละมังใส่น้ำ กวาดกระดาษหนังสือพิมพ์ลงไปแช่ "ทำ ๆ ไปเหอะมึง ถ้าเสร็จเดี๋ยวพรุ่งนี้พาไปกินเคเอฟซี"

"คือบางทีกูอาจอยากกินซานตาเฟ่"

"อย่าเยอะเกิน"

"เราโหวตเคเอฟซี ไก่เลิฟเวอร์ลดราคาอยู่" ฟินน์ส่งเสียงมาจากอีกมุม "ทอม ๆ กาวต้องใช้อีกเยอะมั้ย มันจะหมดขวดแล้ว"

"เอาให้มันเหนียว ๆ อ่ะฟินน์"

"คือกาวมันก็เหนียวอยู่แล้วนะ"

"อืมเราผิดเอง เอ่อ เอาให้เนื้อมันเหมือนดินน้ำมันอ่ะ แบบปั้นได้"

ฟินน์ขมวดคิ้วยุ่ง ทอมเลยลุกไปดู "ใส่ไปอีกหน่อยนึง เออ แล้วก็ขยำ ๆ"

"เออมึง" แบร์รี่พูดหลังจากฉีกกระดาษหนังสือพิมพ์จนหมด "มีเรื่องปรึกษาอ่ะ"

"พูดกับใครอ่ะ"

"ตอนแรกก็พูดกับมึงด้วยแหละทอม แต่พอถามงี้กูว่าไม่ได้พูดกับมึง"

"หยอกไง" ทอมโอ๋ ส่วนฟินน์ขยับเก้าอี้มาใกล้ ๆ "อ่ะว่ามา เรื่องพี่นายใช่มั้ย"

"แสนรู้" แบร์ยิ้ม ลูบหัวทอม ได้ยินคนผมทองประท้วงมุบมิบว่าตัวเองไม่ใช่หมา "ก็นั่นแหละ วันที่กูชวนพี่เขาไปงานศาลเจ้าอ่ะ กูก็ถามเขาว่าสรุปแล้วเราเป็นอะไรกัน แล้วพี่เขาก็.."

"เว้นวรรคทำไมอ่ะแบร์" ฟินน์ถาม

"มึงช่วยอินกับอะไรสักอย่างหน่อยเถอะฟินน์ กูขอ" คนเล่ายกมือไหว้ "พี่เขาก็แบบ แบร์คิดว่าเราเป็นอะไรกัน พี่ก็คิดแบบนั้นแหละ" 

"แล้วไงต่อ"

"ก็ไม่มีไร ก็คบกัน" ตี๋ตามสั่งยิ้มตาปิด หน้าแดงไปทั้งหน้า ทอมเบ้ปาก

"แล้วตรงไหนที่แบร์อยากปรึกษาเหรอ"

"ไม่มี"

"อ๋อสรุปที่เล่าคือจะบอกว่าคบกันแล้วเฉย ๆ "

"ทำไมมึงพูดเหมือนด่าวะ แต่เอาเถอะกูคงคิดมากไปเอง"

"อวดก็บอกอวด" ทอมยู่หน้า "พวกขี้อวด"

"อ่ะ ๆ เปิดโอกาสให้มึงอวดบ้าง" แบร์รี่ว่าพลางผายมือ "ลูกร้านปุ๋ยเป็นไงบ้างครับ"

"..." คนถูกถามเงียบจนผิดวิสัย ฟินน์และแบร์รี่มองหน้าทอมแล้วเหลือบมองกันเองอย่างแปลกใจ

"อ้าว กูอุตส่าห์เปิดให้" แบร์บ่นติดตลก แต่ไม่อาจเอาชนะเดดแอร์ได้ บรรยากาศยังคงเงียบจนน่าอึดอัด

"ก็ทะเลาะกัน พี่แจ็คแม่งงี่เง่าไง" ทอมพูดเสียงเบา "ช่างเหอะมึง วันนี้เดี๋ยวกูง้อ"

"มีอะไรก็คุยกันดี ๆ นะทอม" ฟินน์พูด ส่วนแบร์รี่ตบบ่าเพื่อนสนิท

"รับทราบ โอเค เลิก ๆ ๆ ไม่ต้องมาทำดราม่า งานอ่ะอย่าอู้ ขยำไป"

TBC.

Talk: สวัสดีค่าาาาา กลับมาแล้ว ตอนนี้ก็ไม่ค่อยมีอะไรตลกเท่าไร แถมตอนท้ายดูเหมือนจะไม่มีอะไรเกี่ยวกับแฮซฟินน์ แต่มันจะโยงกับตอนต่อไปค่ะ ฮ่า ตอนแรกกะจะใส่เหตุการณ์ต่อด้วย แต่มันน่าจะยาวเกิน เลยตัดไปไว้ตอนหน้าแทนค่ะ 

ไอเดียโปรเจคคือน้องมายเลย เรื่องช้างเอราวัณอ่ะ55555

ปล.แต่งไปแต่งมาคู่รองชักจะแย่งซีน ฮ่าาา 

ปล2.ติชมคอมเมนท์ได้หมดเลยยยยยยยย มาาาา #ไก่ทอดหาดใหญ่ไม่ต้องใส่งา


รักรักรัก

ทิวเขา


You are reading the story above: TeenFic.Net